คุณอยู่ที่

บทที่ 20 เมืองวิทาเรีย ตอนที่ 2

เขียนโดย nuttapol เมื่อ อาทิตย์, 11/27/2022 - 09:09
Share

หมวดเนื้อหา:

พลังเวทของจีน่าทำให้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ เริ่มที่จะซุบซิบกัน เนื่องจากมันนานแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นผู้ที่ใช้พลังเวทอย่างไม่มีความหวาดกลัว9ต่อกองทัพ หากใครอยู่ในเมืองนี้นานย่อมทราบดีว่าหากผู้ใดที่ทะเลาะวิวาดในเมือง พวกมันจะโดนพวกทหารจะจัดการ แล้วแถมคนที่พวกวินกำลังจะมีเรื่องวิวาดด้วยนั้น มันก็คือลูกของอดีตประจำเมืองวิทาเรีย ถึงแม้ว่ามันจะมีท่าทางหยิ่งผยองและชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่กับพวกชาวบ้านก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครก็ทำอะไรมันแม้แต่นิดเดียว
ชายคนหนึ่งที่เดินมาถึงอุทานอย่างตกตะลึงไม่ได้ “แย่แน่ยายหนูนั้น! ถ้าเป็นแบบนี้ถูกเจ้าภาพนั่นลวนลามแน่ ๆ”
หญิงสาวที่พวกวินเจอในเมืองนำมือมาทาบอกก่อนที่จะถอนหายใจ “แย่แล้ว ใครก็ได้ไปห้างยายหนูนั่นเร็วเข้า พ่อผมเจ้าบ้านั่นมันมีอิทธิพลในเมืองนี้ ถ้าไปทำอะไรละก็พวกเราช่วยไม่ได้แน่ ๆ”
ขณะเดียวกัน
มือถือที่กำลังเข้ามาทำให้เด็กหญิงผมทองเสียวสันหลังไม่ได้ เธอไม่เคยเจออะไรที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต ถึงแม้ว่าเธอจะต่อสู้กับสัตว์อสูรมากมายมาแล้ว แต่ว่าในครั้งนี้มันเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกกลัวได้สิถ้าหากจะบอกให้ถูกก็คือความรู้สึกขยะแขยง เรากลับว่าเจอบางสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัว สายตาของผู้พูดตรงหน้าราวกับว่าจะกลืนกินเธอลงไป มันกวาดสายตาโลมเลียเธอไปทั่วทั้ง
เดิมทีเด็กสาวคิดว่าจะสามารถใช้เวทมนต์ที่เหนือกว่าอัดชายตรงหน้าให้ลอยละลิ่วปลิวละล่องไปไกล ๆ แต่ตอนนี้เธอกลับต้องคิดใหม่เพราะว่าหากสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป เธอคงจะเป็นฝ่ายแพ้และโดนชายตรงหน้าทำอะไรต่อมิอะไรแน่ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรกับเธอก็ตามที
‘น่าขยะแขยงที่สุด ทำไมเราต้องมาต่อสู้กับเจ้านี่ด้วย’
จีน่ากวาดตามองไปยังผู้หญิงด้านข้าง แต่เธอก็ต้องเลิกคิ้วอย่างสงสัยเพราะว่าตอนนี้ร่างของผู้หญิงที่ถึงได้มาช่วยนั้นกลับหายไปราวกับว่าไม่เคยมีหล่อนอยู่ที่แห่งนี้
เด็กสาวหน้าตาซีดเผือดเรากับกระดาษต้มอีกฝ่ายหนังเห็นได้อย่างชัดเจน พลังเวทย์ที่เคยมีเริ่มหดหาย ในหัวพยายามคิดหาทางออกแต่กลับไม่สามารถคิดได้ จนสุดท้ายแล้วต้องเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงให้คู่ต่อสู้รู้ได้ว่าหวาดกลัวที่สุดในชีวิต ‘อย่าเข้ามานะไอ้หื่นกาม ไอ้โรคจิต”
“ทำไมล่ะน้องสาว อยากไปกับพี่ไม่ใช่หรือไงถึงได้มาหาพี่เองแบบนี้ พี่ไม่ได้ทำอะไรน้องก่อนสักหน่อยใช่ไหม หรือว่าน้องถูกใจกับความหล่อของพี่ล่ะจ๊ะ” มุมผีปากอย่างหื่นกระหายก่อนที่จะส่งปากเข้าเสียงดัง สมมุติมันแล้วเด็กสาวตรงหน้านั้นราวกับเนื้ออโนชาที่กำลังจะถูกกลืนเข้าท้อง
“ไม่ใช่ ใครจะไปถูกใจหน้าตาอุบาทว์แบบแก”
“แหมแหมหน้าตาสวยแถมนิสัยยังซึนเดเระอีกด้วยนะเนี่ย แต่พี่ก็ชอบนะ” มันเดินมาทางนำมือมาใกล้ใบหน้าของจีน่า แต่ก่อนที่มือมันจะได้สัมผัสกับใบหน้านวลผ่อง ชายหนุ่มกับรู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งมาปะทะใบหน้า
ชายฉกรรจ์เลิกคิ้วแล้วจึงเห็นชายหนุ่มผมทองหน้าตาโกรธเกรี้ยวกำลังค่อยๆเดินลงมา
วินดูสถานการณ์ที่เริ่มไม่ค่อยดีนัก เพียงไม่ถึงหนึ่งวิเขาก็ตัดสินใจได้ เด็กหนุ่มทะยานร่างไปตรงหน้าของชายหนุ่มที่ดูท่าทางหืนกาม ก่อนที่เขาจะใช้หมัดชกเข้าไปยังใบหน้าของชายคนนั้น
“ช้ามาก ไอ้สวะ”
สิ้นคำกล่าวเด็กหนุ่มก็พบว่าหมัดที่เขาต่อยไปนั้นมีบางสิ่งขวางกั้นไว้อยู่ ‘นี่เราประมาทเกินไปหรือเปล่าที่ไม่ใช้พลังเวทย์ตั้งแต่แรก’
เด็ก 1 ขวบมีเต็มให้พวกสาวๆถอยไป
“จะไปไหนน้องสาว” ชายหนุ่มที่ดูท่าทางหื่นกาม พยายามจะตามหญิงสาวผมทองที่อยู่ตรงหน้า แต่มันก็ต้องผิดหวังเมื่อเด็กหนุ่มเครื่องรางไปขวาง
“นี่แกกล้ามาขวางทางฉันอย่างงั้นหรอ หรือว่าแกไม่รู้สินะว่าฉันเป็นใคร ฉันเป็นลูกของอดีตอัศวินในหน่วยเวทมนต์ของอาณาจักรนี้นะเว้ย ถ้าแกมาขวางทางฉันเดี๋ยวแกจะได้เจอดีไอ้กระจอก”
“ไม่รู้ แต่ว่าถึงรู้แล้วมันจะทำไมอย่างงั้นหรอ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรือจะเป็นลูกขุนนางมาจากที่ไหนผมก็เตะร่วงได้หมดแหละครับ ถ้าไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรนะเพราะอีกไม่นานคุณจะได้กองอยู่แทบเท้าของผม” วินพูดพร้อมด้วยจิตสัมผัสที่พวยพุ่ง
เดือนที่แล้วทั้ง 3 สาวจะตามมาช่วยเหลือเด็กหนุ่ม แต่เนื่องด้วยท่าทางของวินนั้นเริ่มแปลกไปทำให้ทั้งลินจีน่าและอาโออิต้องหยุดชะงัก
อาโออิมองท่าทางของคนตรงหน้าพร้อมจับมือคุโระกับชิโระเอาไว้แน่น เนื่องด้วยท่าทางแบบนี้ของเด็กหนุ่มนั้นไม่ค่อยจะมีให้เห็นบ่อยนัก เด็กสาวผมน้ำตาลคำนึงกับตนเองอย่างประหลาดใจ เนื่องจากตั้งแต่ที่อาโออิได้เจอกับวินเขาไม่เคยมีปฏิกิริยาแบบนี้มาก่อน สำหรับอาโออิบุญนั้นเป็นชายหนุ่มที่แสนใจดีและใจเย็น เป็นคนที่มีเหตุผลแถมยังพึ่งพาได้และไม่โมโหกับสิ่งใดง่ายๆ
แต่หลังจากที่เขาผ่านการฝึกฝนเธอก็รู้ได้โดยสัญชาตญาณว่า เด็กหนุ่มตรงหน้าบ้านเราเริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย ตั้งแต่ออกจากหมู่บ้านมาจนถึงปัจจุบันอารมณ์ของเด็กหนุ่มนั้นไม่คงที่สักเท่าใด บางครั้งก็ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนขี้เล่น บางครั้งก็เป็นคนเอาจริงเอาจังจนน่ากลัว ตามหลังมานี้เหมือนกับวินจะคิดบางสิ่งอยู่ตลอดเวลา หากเธอไปถามเขาก็ไม่เคยที่จะบอกแม้แต่นิดเดียว
ทุกครั้งที่เธอแอบมองเขานั่งอยู่ในห้องคนเดียว เธอมักจะเห็นแววตาที่ทรงอำนาจระหว่างเรากับว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังวางแผนร้าย เหมือนกับว่าเขาต้องการครอบครองบางสิ่งบางอย่าง บุตรสาวผมน้ำตาลหยุดคิดในหัวก่อนที่จะหันมาถามเด็กหญิงผมทองกับผมฟ้าที่อยู่ด้านข้าง
“นี่เธอว่าวินดูแปลกๆไปหรือเปล่าจีน่า”
“ใช่ฉันก็คิดเหมือนกัน รู้สึกว่วินจะแปลกๆไปแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแปลกที่ตรงไหน” หญิงสาวผมทองขมวดคิ้วก่อนที่จะจ้องท่าทางเอาจริงเอาจังของเด็กหนุ่ม เธอนำมือขึ้นมากัดเล็บอีกครั้ง สำหรับเธอเธอไม่เข้าใจเลยว่าเหตุการณ์แค่นี้มันทำไมถึงทำให้เด็กหนุ่มตรงหน้าโกรธมากขนาดนี้
“เห็นด้วยเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมวินถึงแปลกๆไป ตั้งแต่เราออกมาจากหมู่บ้านฉันก็สังเกตตลอดเลยนะ แต่แค่ไม่กล้าพูดกับพวกเธอเฉยๆ “ เด็กสาวผมฟ้ากล่าวสำทับ
ในระหว่างที่ทั้ง 3 สาวกำลังปรึกษากันอยู่ เด็กทั้งสองก็มองท่าทางของวินที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว จิตสังหารของชายตรงหน้าผากทำให้เด็กทั้งสองอดตัวสั่นนิดๆไม่ได้
“พี่วินแปลกไปนะ” คุโระหันมาทำท่าทางกับชิโระ ที่ดูท่าทางโตและเป็นผู้ใหญ่กว่าตนเอง แต่สิ่งที่เขาได้รับก็คือการพยักหน้าปฏิเสธ
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าเรารอดูไปเรื่อยๆดีกว่า ที่พี่วินโกรธอาจจะเป็นเพราะว่า ชายคนนั้นมาทำนิสัยไม่ดีใส่พี่จีน่าก็ได้นะ” เด็กหญิงผมขาวกล่าวเพื่อเปลี่ยนประเด็น ทั้งทั้งที่ในใจของเด็กน้อยก็รู้ดีว่าชายตรงหน้าได้เปลี่ยนไปแล้ว
“เบอร์ที่ใช้ก็เป็นเวทมนตร์ระดับพื้นฐานแท้ๆยังกล้ามาหาเรื่องอีกนะ” ชายฉกรรจ์ท่าทางหืนกาม กล่าวอย่างเหยียด
ท่าทางของชายตรงหน้าทำให้เขารู้ได้ทันทีว่า ถึงแม้พลังของเขาจะพัฒนาขึ้นมาจากแต่ก่อน ถ้าหากเทียบกันจริงๆแล้วความสามารถแค่นี้ยังไม่สามารถสยบคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าเขาจะคิดอย่างนั้นแต่ว่ามือกับต่อยเข้าไปที่ท้องของชายเบื้องหน้า
ร่างของมันลอยกระเด็นไปยังง่ายดายเรากลับสายป่านขาด พร้อมกับเสียงดัง ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ชายคนนั้นได้หัวไปกระแทกกับกำแพงอย่างแรง มันสะบัดหัวไล่ความเจ็บปวดก่อนที่จะตะโกนลั่น
“นี่ก็เล่นงานตัวที่ข้าเคยอย่างนั้นหรอไอ้เด็กเวร 760 หน่อยเป็นไงเวชกายาเหล็กไหล อันนี้จะเป็นแม่ที่ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแกร่งถึง 3 ส่วน เถ้าแก่ก็ชุดมาอีกครั้งแต่กำปั้นของแกDmax ออกเป็นเสี่ยง ๆ แน่นอน”
มันยังถามไม่ทันจบเด็กหนุ่มก็เคลื่อนล่างหายไปพร้อมกับร่างกายของชายฉกรรจ์ที่ถูกเตะลอยละลิ่วอีกครั้ง ร่างกายของมันกระเด็นไปชนกำแพงเสียงดังสนั่นทำให้ชาวบ้านที่มองอยู่ต้องเบิกตาด้วยความตกตะลึง
“ผมก็บอกแล้วนี่ ถ้าคุณไม่เชื่อผมแล้วก็ ก็ไม่เป็นไร ผู้หญิงไงคุณก็ต้องถูกผมอาจจะนวดอยู่แล้ว”
เด็กหนุ่มชูนิ้วขึ้นมาทุกครั้งก่อนที่จะพูดไล่หัวข้อที่มันทำผิดต่อเขา “ ผมจะบรรยายให้ฟังว่าทำไมคุณถึงโดนผมอัด”
“ ข้อที่ 1 คุณก็มาทำสายตาเวลาใส่เพื่อนของผม และข้อที่ 2 เป็นเหตุผลส่วนตัวของผมเอง คำพูดและถ้าถามของคุณมันกวนส้นตีน 1 แถมยังขัดใจคนอย่างผม เพราะยังงั้นผมจะอัดคุณจนกว่าผมจะพอใจ”
ท่าทางประกอบกับเสียงที่ทรงอำนาจและจิตสังหารที่ผ่าพึ่งออกมาจากร่างกายอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้แม้แต่กลุ่มของอาโออิ ผู้หญิงไม่กล้าเข้าไปห้าม พวกเขาทั้งหมดจึงเป็นเหตุผลที่ไม่เอาไหนของเด็กตรงหน้า บ้านก็ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย บ้างก็คิดว่าเสียเวลารับชม แต่ก็มีบางส่วนที่ใจอยู่ลึกๆเพราะครั้งนี้จากสะพานในเมืองเล็กๆแห่งนี้จะถูกสั่งสอนอย่างสาสม
ภูเขาไม่ต้องดูให้เสียเวลาก็รู้ ห้องขังพลังเวทย์และจิตตสังขารประกอบกับท่าทางการเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้พวกเขารู้ได้ทันทีว่าฝีมือของเด็กหนุ่มผมทองนั้นช่างต่างกับฝีมือของอันธพาลค่าส่งเราฟ้ากับเหว ต่อให้มันจะสุกอีก 200 ชาติก็คงไม่สามารถตามทันการฝึกฝนที่ถูกฝึกมานับไม่ถ้วนของวินได้
วินมองท่าทางของชายตรงหน้าอย่างเซ็งๆกับฝีมือ ปืนทีเขาอยากจะหาคนไปลองฝีมือด้วย เพราะเขาเห็นว่าชายตรงหน้าดูท่าทางจะเป็นอันธพาลที่เก๋าที่สุดในเมืองนี้ แต่ว่าหลังจากที่เขาลองเอาจริงก็พบว่าชายตรงหน้านั้นอ่อนแอมากทีเดียว หากให้พูดตามตรงคนอ่อนแอเท่าเขาเมื่อ 1 ปีก่อนที่จะได้รับการฝึก ระบบตัดค่าทางและการเคลื่อนไหวที่เขาประยุกต์ใช้จากโรคก่อนทำให้ทั้งกระบวนท่าและพลังของชายตรงหน้ายิ่งห่างไกลเข้าไปอีก
‘หากเจ้าไม่แข็งแกร่งไม่สามารถสยบผู้คนให้อยู่ใต้ฝ่าเท้า เจ้าเองจะเป็นข้าทาสของผู้คนไปตลอดกาล’ เสียงของคนที่คุ้นเคยดังขึ้น ทำให้เด็กหนุ่มยิ้มที่มุมปากเพราะว่าเขาก็ถูกใจกับคำกล่าวนี้
ชายหนุ่มลุกขึ้นสะบัดหัวเพื่อไล่ความมึนงงแต่ว่ามันยังไม่ทันทำอะไรร่างกายของมันก็ถูกขาที่เต็มไปด้วยพลังลมปราณอัดขึ้นไปชนกับกำแพงอีกครั้ง มันโดนทั้งต่อยทั้งเตะประมาณ 2-3 กินตอนนี้มันไม่กล้าสบตากับชายตรงหน้าอีกแล้ว
บางทีมันก็เป็นแค่อันธพาลกิ๊กก๊อก การที่ได้จีบสาวงามและขายตังค์เป็นความสุขเล็กๆที่มันสามารถทำได้ แต่ว่าหลังจากที่มันต้องได้มาเจอกับเด็กคนนี้มันก็เริ่มคิดว่าชะตาชีวิตของมันนั้นช่างภาเอาเรื่องสวยๆมาหามันเสียจริง
มันชี้นิ้วใส่หน้าของเด็กหนุ่มผมทองก่อนที่จะกล่าวด้วยความหวาดกลัว “แกเป็นใครกันแน่ เป็นทหารใหม่ในเมือง หรือว่าเป็นอัศวินทำไมถึงมีฝีมือขนาดนี้”
“ผมน่ะหรอ ผมก็คือนักเวทย์ฝึกหัด ถามว่าคุณล่ะเป็นใครลูกเจ้าเมืองอย่างนั้นหรอ หรือว่าลูกอัศวิน ทำไมฝีมือของคุณมันช่างกากเกรียนกะโหลกกะลากิ๊กก๊อกต่ำต้อยอย่างนี้ ต่อให้ผมต้องสู้กับคุณแค่ตัวคนเดียวแล้วไม่ต้องใช้เวลาผมก็เอาชนะคนได้ ถ้าไม่เชื่อลองดูไหมล่ะ”
ชายหนุ่มได้ยินคำพูดอย่างนั้นมันจึงกัดฟัน “อย่ามาดูถูกกันให้มากนัก นี่แกคิดหรอว่าถ้าแกไม่มีพลังเวทย์จะสามารถเอาชนะข้าได้”
วินพยักหน้าเป็นเชิงรับกับคำพูดของชายฉกรรจ์ แต่ภายในใจเขากลับรู้สึกหวาดหวั่นเล็กๆไม่ได้ แต่ว่ายังไงก็ตามตอนนี้หากเขาแสดงท่าทางหวาดหวั่นออกไปเกรงว่าเขาคงโดนทุกคนหัวเราะเยาะ
“แน่นอนอยู่แล้ว ฝีมือระดับคุณผมไม่ต้องใช้พลังเวทย์สั่งไป”
เขาเห็นความโกรธโครงสร้างตรงหน้าก่อนที่มันจะตวาดเสียงดัง “แกชื่ออะไร ข้าจะจดจำไว้”
“ก่อนที่จะถามชื่อคนอื่นน่ะ บอกชื่อตัวเองก่อนนี่เป็นมารยาทพื้นฐานหรือเปล่า มารยาทแค่นี้ยังไม่รู้เรื่องแล้วจะไปทำอะไรล่ะครับ ผมชื่ออะไรผมชื่อวิน เป็นเด็กบ้านนอกธรรมดาที่จะมาสอบเข้ามหาวิทยาลัยเวทมนตร์วิทาเรีย”
ชายหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ก่อนที่จะกล่าวตอบเด็กหนุ่มผมทอง “ถ้ามีชื่อว่าฟาน” สีหน้าที่เคยเล่นของฟานตอนนี้กลับเปลี่ยนแปลงไป มันเล่นเอาจริงเอาจังและยิ้มที่มุมปากก่อนที่จะตะโกนเสียงดังกึกก้อง
“พวกแก จงไปประกาศให้ทั่ว น่าจะไปรอกับเด็กหนุ่มต่างเมืองที่มีนามว่าวินหากใครที่รู้เรื่องและเป็นลูกน้องของข้าและพ่อของข้าจงมารวมตัวเพื่อดูการประลองครั้งนี้ที่กลางเมือง” เสียงของมันดังกึกก้องไปรอบรอบบริเวณ ทำให้เด็กหนุ่มอีกคนจะหนักได้ทันทีว่าชายคนนี้ก็ไม่ใช่ธรรมดา มันดีดตัวแล้วเช็ดชายเสื้อ หลังจากนั้นจึงหันหน้าไปเอ่ยเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
“ถ้าครั้งนี้ แกสามารถเอาชนะข้าได้ต่อให้จะให้ข้าทำอะไรข้าก็จะยอม”
วินตัดสินใจเดินออกจากปากซอยมาเจอกับกลุ่มของลิน พอเขาเดินมาเขาก็พบกับสายตาเขียวปลั๊กของทั้งสามสาวที่กำลังจ้องมองเขาอย่างโกรธเคือง หญิงสาวผมทองกวาดตามองสภาพของเด็กหนุ่ม ก่อนที่หล่อนจะนำมือมาเขกหัวชายตรงหน้าอย่างรุนแรง
“นี่นายคิดอะไรของนายเนี่ย ทำไมถึงไปท้าอะไรแบบนั้น”
“ใช่แล้วล่ะ ทำไมถึงได้ทำอะไรแบบนั้นล่ะวิน เธอก็รู้ไม่ใช่หรอว่าถ้าเธอไม่ใช้พลังเวทล่ะก็ เธอตรงโดนอัดอยู่ฝ่ายเดียวแน่ ๆ “ ลินด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ว่าเธอจะมั่นใจในฝีมือของเขาก็ตาม
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ ฉันคิดวิธีเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่ทำไมฉันถึงตัดสินใจแบบนี้ ฉันมีเหตุผลของฉันอยู่พวกเธอไม่ต้องรู้ตอนนี้ก็ได้ แต่ว่าหลังจากที่ต่อสู้เสร็จแล้วฉันจะเล่าให้ฟังก็แล้วกันนะ เพราะฉะนั้นฉันอยากให้พวกเธอกลับไปรอที่”
เขาหยุดคิดก่อนที่จะทนนึกได้ทันทีว่าตอนนี้พวกเขายังไม่มีที่พักในคืนนี้เลย เด็กหนุ่มหันไปมองฟานที่เดินตามมาไม่ห่าง ก่อนที่จะกล่าว “ฉันขอพาเพื่อนของฉันไปหาที่พักก่อนได้หรือเปล่า”
“ไม่ได้ นี่แกก็แพ้อย่างไอ้เด็กเวร”
เด็กหนุ่มสาวพิเศษก่อนที่จะหันมาพูดกับกลุ่มของเขาอย่างไม่สนใจกับชายตรงหน้าอีก “ถ้างั้นรอแป๊บนึงก็แล้วกันนะ ฉันว่าการต่อสู้ครั้งนี้คงไม่เติม 30 นาทีหรอก็รู้ผลแล้วล่ะ หลังจากนั้นพวกเราค่อยไปหาที่พักในเมืองกัน”
เด็กหนุ่มหันมาลูบหัวเด็กน้อยทั้ง 2 ที่ยืนรออยู่ “เอาละพี่จะรีบต่อสู้ให้สุดๆ หลังจากนั้นพวกเราก็มาหาข้าวกินกันนะ”