คุณอยู่ที่

บทที่ 19 พักผ่อน ตอนที่3

เขียนโดย nuttapol เมื่อ อาทิตย์, 11/27/2022 - 09:07
Share

หมวดเนื้อหา:

จีน่าไม่แม้แต่จะมองกลับมาทางวิน เธอรู้ทั้งรู้ว่าเขาเดินตามเธอมาในมิติแต่ว่าด้วยเหตุผลบางอย่างเธอจึงไม่อยากจะจ้องมองเขา
“เธอจะไปล่าตัวอะไรให้พวกชาวบ้านอย่างงั้นหรอ”
“ไม่รู้ว่าแต่นายจะตามฉันมาทำไม ทำไมไม่อยู่กับพวกพี่ลิน” จีน่าเปิดประตูมิติ
เบื้องหน้าเต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่สัตว์ป่าหลากหลายชนิดวิ่งเพ่นพ่านไปทั่ว แม้ว่าตอนนี้จใกล้มืดแล้วก็ตามแต่มันกลับไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับพวกเขาทั้งสองคน
“ฉันมาช่วยเธอถือของไง แล้วอีกอย่างหนึ่งทำไมเธอถึงไม่รอให้พวกอาโออิมาด้วยล่ะจู่ๆก็รีบมาเลย”
เด็กสาวกล่าวด้วยความขุ่นเคือง “นายจะถามอะไรนักหนาล่ะ”
“ฉันทำอาหารไม่ได้แต่ว่าถ้าพี่ลินอยู่หน้าจะช่วยพวกชาวบ้านได้ อีกอย่างนึงเหตุการณ์แบบนี้น่ะน่าจะมีคนที่พูดเก่งมีทักษะในการจูงใจอย่างนายอยู่ใกล้ๆไม่ใช่หรือไง”
จีน่ากล่าว แต่กลับไม่หันมามองชายหนุ่มที่เดินตามเธอมาติด ๆ เธอรู้สึกประหลาดกับวิน หมายถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร
เด็กสาวกวาดสายตามองหาสัตว์ตัวเล็กๆที่สามารถทำอาหารได้อย่างง่ายๆ แต่กลับไม่พบสิ่งที่เธอต้องการ กระรอกตัวน้อยหน้าตาน่ารักวิ่งผ่านหน้าหญิงสาวไป ทำให้เธออดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
ท่าทางของจีน่ามันไม่ได้รอดพ้นจากการสังเกตของเด็กหนุ่มเลยแม้แต่นิดเดียว เขาตัดสินใจถามจีน่า “อยากได้กระรอกไปเลี้ยงหรือเปล่า”
จีน่าสายหัวปฏิเสธ “ฉันคงไม่มีเวลามากขนาดนั้น แล้วอีกอย่างนึงเวลาพวกเราเดินทางถ้าต้องสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งฉันกลัวว่ามันอาจจะตายก็ได้”
สิ้นคำตอบวินจึงนำมือตบไหล่หญิงสาวแต่เธอกลับไม่หันมามอง ทำให้เด็กหนุ่มถามอย่างงง “นี่ฉันทำอะไรให้เธอโกรธหรือเปล่าเนี่ย ทำไมถึงทำท่าทางแปลกๆใส่ฉัน”
“ฉันไม่ได้โกรธอะไรสักหน่อย”
เสียงที่เรียบนิ่งของเด็กสาวทำให้เด็กหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าจีน่าคงมีอะไรที่ไม่พอใจเขา ‘แบบนี้โกรธแหง ว่าแต่เราไปทำอะไรวะ’
เพียงไม่นาน จีน่าก็หยุดฝีเท้า ทำให้เด็กหนุ่มต้องหยุดตาม ภาพเบื้องหน้าคือหมูป่าขนาดใหญ่ ที่กำลังหาอาหาร จีน่ามองก่อนที่จะค่อยๆสะบัดมือเรียกดาบเวทมนตร์ขึ้นมา หล่อนจ้องไปยังภาพเบื้องหน้าก่อนที่จะค่อยเพิ่มจำนวนดาบเวทย์มนต์ให้เท่ากับจำนวนของหมูป่า
ดาบสีแดงเพลงสาดแสงส่องไปรอบ ๆ บริเวณ แต่ก่อนที่เธอจะลงมือสังหาร วินกลับพูดขัดขึ้น
“หยุดก่อน ฉันมีแผน”
จีน่าเหลือบหางตามามองวินเป็นเชิงถาม “แผนอะไรหรอ”
“ก็แผนการที่จะทำให้พวกชาวบ้านมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์โดยที่ไม่ต้องออกมาล่าสัตว์ป่าและมอนสเตอร์เองยังไงล่ะ ถ้ามันได้ผลพวกชาวบ้านก็ไม่จำเป็นต้องออกจากหมู่บ้าน”
หญิงสาวมองหมูป่าที่กำลังหาอาหารแล้วหันมามองยังชายหนุ่มทีมมีแววตาเป็นประกาย ก่อนที่เธอจะยิ้มออกมาราวกลับว่าคิดอะไรออก
สำหรับเด็กสาวการที่จะให้เธอเดาความคิดของเด็กหนุ่มเบื้องหน้ามันไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนักหนา
“อย่าบอกนะว่านายจะให้ฉันจับหมูป่า ทั้งหมดไปในหมู่บ้าน ไม่สิถ้าคิดไม่ผิดก่อนอื่นน่าจะให้ฉันจัดการหมูป่าที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุด แล้วหลังจากนั้นค่อยใช้เวทบางอย่าง ขังหมูป่าตัวเล็ก ๆ
แล้วนำกลับหมู่บ้านใช่ไหม”
สิ้นคำกล่าวจีน่าก็เห็นท่าทางตกตะลึงของวิน ทำให้หล่อนอดยิ้มอย่างพึงพอใจ ทุกครั้งที่เธอเห็นท่าทางแบบนี้เธอรู้สึกว่าเธอชนะชายตรงหน้า ได้อย่างไม่ยากเย็น
ตอนแรกที่เธอได้เจอกัวินสิ่งที่ทำให้เธอสู้กับเขาได้อย่างสูสีก็คือความแตกต่างของการใช้พลังเวทย์มนต์ ถึงแม้ว่าสติปัญญาเธอจะสู้ไม่ค่อยได้ก็ตามที แต่ว่าพักหลังที่วินเริ่มมีพลังเวทย์ทำให้เธอรู้สึกว่าเด็กหนุ่มเริ่มเก่งขึ้น
ตอนแรก เธอคิดว่าเธอจะเป็นคนปกป้องเขาเพียงฝ่ายเดียว แต่ว่าหลังหลังเด็กสาวรู้สึกว่าตนเองต่างหากที่ถูกชายหนุ่มปกป้อง แถมยังทั้งพี่สาว และเพื่อนๆที่ได้เจอล้วนแต่ชอบชายหนุ่มเห็นว่าวินเป็นคนสำคัญที่สุด เป็นคนเก่งที่สุดไม่พ้นแม้แต่พ่อของเธอ ก็ตาม ก็เห็นว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเป็นคนที่สำคัญที่สุด ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิด
แต่ขนาดเดียวกันเธอก็รู้สึกว่าเวลาอยู่ใกล้ชายหนุ่มคนนี้หัวใจของเธอมันเต้นผิดปกติ
ถึงแม้บางครั้งเธอก็อยากจะพูดกักับบเขาอย่างอ่อนโยนเหมือนผู้หญิงทั่วๆไป แต่ว่าด้วยบุคลิกและนิสัยที่คล้ายกับผู้ชายเสียมากกว่า ทำให้เธอไม่สามารถทำได้
“นี่นี่ ฟังฉันอยู่หรือเปล่าจีน่า”
เสียงของเด็กหนุ่มทำให้เธอหลุดจากภวังค์ เธอจ้องมองชายหนุ่มตอนนี้ใบหน้าของชายหนุ่มงั้นห่างกับเธอแค่คืบ ลมหายใจของเขาปะทะใบหน้าของเธอ
“มีอะไร” จีน่ากล่าวอย่างร้อนรนพร้อมกับค่อยๆสงบสติอารมณ์ เธอค่อยๆสูดหายใจเข้าปอดอย่างลึกๆเพื่อทำให้หัวใจของตนเองกลับมาเต้นดังเดิม
“เธอใช้เวทย์มนต์ที่คล้ายๆกับกรงขังได้ไหม พวกเราจะได้จัดการพวกหมูป่าแล้วก็เอามันกลับไปในหมู่บ้าน”
“ไม่ยากก็แค่ใช้เวทมิติขังพวกมันเอาไว้ แล้วก็เอามันกลับไปใช่ไหมล่ะแต่ว่าฉันไม่มั่นใจว่าจะทำได้ถึงขนาดนั้นหรือเปล่า แล้วอีกอย่างทุกครั้งที่ใช้เวทประเภทนี้มันจะกินพลังเวทย์มากเกินไปด้วย”
เด็กหนุ่มทำท่าทางตึกตรองหากให้เขาใช้พลังเวทย์ก็มีแต่พลังเวทย์ที่ใช้ทำร้าย หรือไม่ก็ใช้สังหารพวกมัน “ถ้าเอาลินหรือไม่ก็อาโออิ มาด้วยก็คงดีเหมือนกันนะเนี่ย”
คำกล่าวของเด็กหนุ่มทำให้จีน่าคิ้วกระตุกอย่างไม่พอใจ ทว่าท่าทางของเด็กหนุ่มที่หันไปสนใจพวกสัตว์ป่าทำให้เขาไม่ได้สังเกตเห็น
‘อะไรกันจะบอกว่าฉันมีประโยชน์น้อยกว่าพวกอาโออิกับพี่ลินอย่างนั้นหรอ แล้วอีกอย่างนึงฉันไม่ได้ขอให้นายมาด้วยสักหน่อย’
“เอาอย่างนี้ดีกว่า เราค่อยมาจัดการมันวันพรุ่งนี้ก็แล้วกันเนาะ วันนี้แค่จัดการพวกหมูป่าที่พวกเราจะกินก็พอ”
สิ้นคำกล่าวของเด็กหนุ่ม จีน่าก็สะบัดมือ เพียงไม่นานหมูป่าจำนวน 4 ตัวก็ต้องตกตายไปอย่างไม่รู้สึกตัว เด็กสาวเรียกแม่มิติพลางโบกมือ ทันใดนั้นร่างอันปราศจากวิญญาณของสัตว์ทั้ง 4 ตัวก็ลอยเข้าไปในเปิดมิติ
“ที่เหลือก็ผักกับผลไม้ที่ต้องใช้ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นดูจากสภาพแวดล้อมกับป่าที่เยอะขนาดนี้น่าจะไม่ค่อยมีผลไม้นะเราอาจจะต้องเดินเข้าไปใกล้ๆหมู่บ้านแล้วไปหาเก็บหรือเปล่า”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะอันที่จริงฉันก็มาพร้อมกับนาย มาที่นี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำเพราะฉะนั้นผลไม้ที่กินได้มันจะอยู่ตรงไหนฉันก็ไม่รู้หรอก ถ้าจะให้เดาพวกชาวบ้านอาจจะปลูกไว้บ้างหรือเปล่า”
วินส่ายหัวปฏิเสธความคิดของเด็กสาว “จากที่สังเกตแล้วก็ที่ฉันเคยฟังมานะฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะไม่ได้ปลูกอะไรทิ้งไว้ หรือต่อให้ปลูกก็คงโดนพวกโจรชิงไปหมดแล้วล่ะ”
จีน่ายิ้ม ก่อนที่จะพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นตรงฐานทัพของพวกโจรมันน่าจะมีอาหารเหลืออยู่บ้าง อ ตอนที่นายไปชิงตัวประกันนายได้ดูหรือเปล่า”
“ไม่ได้สังเกตเลยตอนนั้น มัวแต่ต่อสู้กับหชายหนุ่มปริศนาอยู่น่ะ”
จีน่าโบกมือ เรียก ขึ้นมาอีกครั้งหลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็เดินเข้าไปในช่องว่างมิติขนาดใหญ่ เพียงไม่นานพวกวิน ก็มาถึงฐานทัพของโจรร้ายอีกครั้ง บรรยากาศที่แสนวังเวงความมืดที่เริ่มเข้ามาปกคลุม ประกอบกับอากาศที่เริ่มเย็นขึ้นทุกขณะจิต
ซากศพที่กองระเกะระกะเต็มพื้น โลหิตที่ย้อมผืนพสุธาให้เป็นสีแดงฉานราวกับว่ามีผู้ใดได้มาทาสี กลิ่นคาวเลือดที่ลอยมาเตะจมูก ทำให้เด็กสาวอดเบ้หน้าอย่างนึกรังเกียจสอิสระเอียนมิได้ เธอเบ้หน้าโดยที่ไม่รู้ตัว
วินเดินตรงไปยังประตูไม้ก่อนที่จะบิดลูกบิด เสียงของประตูดังผ่านสายลม คนทั้งสองรีบก้าวเท้าตรงไปข้างในฐานทัพ
“ไม่มีอะไรเลยนี่นา” จีน่ากวาดตามองไปรอบ ๆ แต่เธอต้องผิดหวัง เพราะข้างหน้านั้นมีแต่ความว่างเปล่า
“ใช่ ไม่น่าเชื่อเลยว่าที่นี่จะไม่มีอาหาร แต่ว่าถ้าจำไม่ผิดพวกชาวบ้านถูกแยมพืชผักผลไม้ไม่ใช่หรอ มันน่าจะเหลือบ้างสิ” วินมองรอบๆห้องอีกครั้ง ก่อนที่จะถอนหายใจ
“ถ้าอย่างนั้นเราอยู่นี่นานก็คงไม่มีประโยชน์ พวกหเรารีบกลับกันดีกว่า”
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับคำกล่าวก่อนที่จะเดินนำเด็กสาว

พวกเขา เดินหาพืชผักผลไม้อีกสักพักก่อนที่จะตัดสินใจกลับหมู่บ้าน พ่อมาถึงพวกชาวบ้านก็เตรียมเครื่องปรุงต่างๆเพื่อไว้ทำอาหาร เวลาผ่านไปอีกไม่นานเมนูที่เต็มไปด้วยหมูชนิดต่างๆก็มาเสิร์ฟให้พวกวินได้รับประทาน
ตรงหน้าของพวกวิน มีทั้งหมูทอดหมูต้มและข้าวสวยร้อนๆ หลังจากนั้นพวกวินก็รับประทานอาหารมื้อนี้กับพวกชาวบ้านอย่างมีความสุข
แสงอาทิตย์ได้ลาลับขอบฟ้าไปเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับอาโออิและลินที่ผ่านเด็กน้อยทั้งสองคนที่กำลังจะจองโรงแรมที่ไม่อยากอาบน้ำตอนเย็น พวกเธอทั้งสองพาเด็กน้อยทั้งสองไปอาบน้ำโดยที่ปล่อยให้จีน่าและวินนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร
“มองอะไรของนาย” เด็กสาวผมสีทองกล่าวอย่างไม่พอใจ
“ฉันไม่ได้มองอะไรเลยนะ”
“นายมองหน้าฉันอยู่เห็นๆได้มีอะไรหรือเปล่า หรือว่าสิ่งที่ฉันทำมันไม่ดีเท่ากับพวกอาโออิยังงั้นหรอ”
“อะไรนะ ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยที่เธอโมโหฉันนี่คือเรื่องนี้เองใช่ไหม”
“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้โมโหอะไรนายทั้งนั้น” เด็กสาวเก่าก่อนที่จะหันขวับไปมองทางอื่น พวกเด็กๆที่กำลังวิ่งเล่นอย่างมีความสุข ประกอบกับพวกชาวบ้านที่กำลังก่อกองไฟ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับตนเอง
‘ฉันแค่รู้สึกไม่พอใจ’ หญิงสาวไม่ได้เอ่ยออกมา
“ว่าแต่นายอธิบายแผนการทั้งหมดให้ฉันฟังได้ไหม ว่านายจะไปช่วยพวกชาวบ้านยังไง แล้ว”
เด็กหนุ่มหยิบน้ำขึ้นมาจิบหนึ่งอึก ก่อนที่จะกล่าว “ตอนแรกฉันคิดว่าพวกเราคงต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่นานเป็นสัปดาห์ แต่ว่าตอนนี้พวกเราคงจะไม่จำเป็นต้องอยู่นานขนาดนั้น เอาไว้พวกลินกลับมาก่อน แล้วค่อยปรึกษากันดีกว่า”
“อือ ดีเหมือนกันจะได้คุยกันทีเดียว”
ไม่นานพวกเด็กๆก็อาบน้ำจนเสร็จ พวกเขากลับมารวมกันที่โต๊ะรับประทานอาหารก่อนที่เด็กหนุ่มในกลุ่มจะกล่าวขึ้น “เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้น่ะรู้สึกสดชื่นขึ้นบ้างหรือเปล่า”
“อาบน้ำก็รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้วล่ะ แล้วพวกเธอจะไปอาบน้ำเลยไหม หรือว่าจะรอก่อน” ลินหวีผมให้กับชิโระทางดูเด็กน้อยอีกคนที่เดินป้วนเปี้ยนไปมา
“สดชื่นมากเลยพี่วิน ผมอาบน้ำอยู่ผมลองเซเว่นไฟต้มน้ำให้เดือดด้วยมันเหมือนสิ่งที่พี่เคยเล่าให้ฟังเลยชื่อว่าออนเซ็นหรือเปล่านะ”” คุโระก่อนที่จะเทียบเวลาบนไฟขึ้นมาไว้บนฝ่ามือ บอลไฟขนาดใหญ่ส่องแสงสว่างไปรอบ ๆ บริเวณ ก่อนที่เด็กน้อยป่ามันให้ขึ้นไปลอยบนฟ้า ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน
“อย่าทำแบบนั้นอีกนะรู้หรือเปล่า” อาโออิรีบใช้เวียดนามดับไฟก่อนที่มันจะร่วงลงมาปะทะกับพื้นดิน

“ว่าแต่ลองเล่าแผนการของมาให้ฟังหน่อยได้ไหม” เด็กสาวนำคุโระมานั่งไว้ที่ตัก โดยที่ข้างๆมีหญิงสาวผมฟ้านำชิโระนั่งอยู่บนตักเช่นเดียวกัน หากจะมองดูดีๆแล้วทั้งสองนั้นมีความแตกต่างกันอย่างน่าประหลาด
ชิโระเป็นเด็กสาวที่มีท่าทางเรียบร้อยที่กลัวและไม่ค่อยกล้าแสดงออก ใจเย็นและน่ารักพูดง่าย
คุโระใจร้อน เด็ดเดี่ยว ดื้อไม่ยอมฟังเข้าใจยาก
วินคิดในใจก่อนที่จะกล่าวเพื่อเบี่ยงประเด็น “เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เรามาคุยเรื่องแผนการกันดีกว่า ความจริงแล้วฉันคิดว่าพวกเราต้องเสียเวลาอยู่ที่หมู่บ้านนี้นานพอสมควร เอาเท่าที่ฉันดูแล้วฉันเลยรู้ว่าถ้าเราสามารถหาพืชผักผลไม้กลับมาไว้ให้พวกเขาเราน่าจะลดเวลาการทำงานพวกเราได้”
คำกล่าวของเด็กหนุ่ม ทำให้คุโระที่กำลังเตรียมตัวจะดื้อต่อหยุดฟังอย่างสนใจ เด็กน้อยมีท่าทางสงบสีหน้าเป็นประกาย อยากรู้อยากเห็นพิกัดเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้านข้าง ที่ไม่ได้ดูตั้งแต่แรก
“แสดงว่านายต้องการให้พวกเราใช้เวทมนต์ช่วยพวกชาวบ้านใช่ไหม”
วินไม่ได้ส่ายหัวปฏิเสธ
เมื่ออาโออิเห็นอย่างนั้นเธอจึงกล่าวด้วยความเครียด “แต่ว่านะ ฉันน่ะไม่ถนัดใช้เวทย์มนต์พฤกษาในการปลูกพืชผักผลไม้หรอก ส่วน ลินจะถนัดใช้เวทมนต์ที่เกี่ยวกับการรักษามากกว่า” อาโออิส่งสายตาไปให้เด็กสาวที่นั่งข้างๆกันพูดต่อ
“ใช่แล้วล่ะ แล้วอีกอย่างหนึ่งต่อให้พวกฉันจะใช้เวทมนต์ปลูกพืชผักผลไม้ขึ้นมาได้ก็จริง เราก็ต้องใช้เมล็ดพืชอยู่ดี เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่คิดจะทำมันก็ทำได้เลย
“ จีน่านำมือเท้าคางก่อนที่จะค่อยๆเคาะนิ้วลงกับแก้วน้ำ “ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันนะ แต่ว่าต่อให้พวกเราจะอยู่ที่นี่มากกว่านี้อีกสัก 3 สัปดาห์พวกเราก็ช่วยพวกเขาไม่ได้มาก “
ในขณะที่ทุกคนกำลังเคร่งเครียด วินโบกมือเป็นเชิงให้สาว ๆ หยุดคิด เด็กหนุ่มค่อยๆอธิบาย แผนการทั้งหมดที่เขาคิดให้กับพวกสาวๆสั่งทั้งหมด
“ถ้าเป็นแบบนี้มันก็ง่ายอยู่นะจะได้ลดภาระในการใช้พลังของพวกเราไปด้วย” จีน่ากล่าว คิ้วที่ขมวดเป็นปมของเด็กสาวค่อยๆคลายออก
“นายคิดได้ยังไงเนี่ยดีเหมือนกันนะถ้าแบบนี้พวกเราก็เริ่มทำงานได้เลยใช่ไหมพรุ่งนี้” อาโออิกล่าวพลางยิ้มอย่างถูกใจ ในขนราดที่ลินพยักหน้ารับ หลังจากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไปนอน โดยที่เด็กหนุ่มผมทองมองท้องฟ้าอยู่คนเดียว

สายลมเย็นพัดความหอมของกลิ่นดินต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบ ๆ ทำให้เขารู้สึกสดชื่นอย่างประหลาด แม้ว่าเขาจะรู้สึกเหนื่อยแต่ว่ากลับไม่อยากหลับตาลงแม้แต่นิดเดียว
“ทำไมเจ้าถึงมานั่งอยู่แค่ผู้เล่า” เสียงหากของผู้อาวุโสดังขึ้นทำให้เด็กหนุ่มเหลือบตากลับไปมอง
“อากาศเย็นเช่นนี้ท่านไม่ควรจะออกมาข้างนอกนะครับ” เด็กหนุ่มลุกขึ้นก่อนที่จะขยับเก้าอี้เป็นเชิงให้ผู้อาวุโสนั่ง
“ค่าสมัครขอบคุณเท่านั้น เป็นเพราะพวกเจ้าแท้ๆ พวกชาวบ้านถึงไม่ได้รับอันตราย แล้วอีกอย่างนึงจึงทำให้ข้าได้รู้ความจริงเกี่ยวกับหลานสาวของข้า”
“เรื่องนี้ผมก็ไม่ได้รู้มาก่อน เรื่องที่เกิดขึ้นคงทำให้คุโระ ชิโระรู้สึกช็อค มากเลยเหรอครับ ผมสังเกตท่าทางของเด็กน้อยทั้งสองแล้วถึงแม้ว่าคุโระ จะทำตัวสนุกสนานแต่ว่าเขาก็เริ่มคิดอะไรได้มากขึ้น ส่วนปัญหาก็คือชิโระ”
เด็กหนุ่มรู้สึกถึงมือของผู้อาวุโสที่ตบลงมาที่บ่า “ถึงแม้ว่าเจ้าจะพยายามคิดวิธีแก้ไขปัญหาให้แต่ฉานสักแค่ไหนก็ตาม แต่ว่าเจ้ายังเป็นแค่คนธรรมดา จงอย่าลืมว่าต่อให้จะพยายามแค่ไหนมันมันก็คงต้องมีบางเรื่องที่ไม่มีทางสัมฤทธิ์ผล ดังนั้นแล้วจงอย่าลืมข้อนี้ไปซะล่ะ”
‘ถึงแม้ว่าเจ้าจะใช้ชีวิตมา 2 ชาติแล้วก็ตามที’

…..
ตอนต่อไปจะเริ่มเดินทางแล้วน้า เจอกัน ต่อไปจะอับทุกสองตอน