คุณอยู่ที่

บทที่ 31 ท้าทาย

เขียนโดย nuttapol เมื่อ อาทิตย์, 11/27/2022 - 05:50
Share

หมวดเนื้อหา:

ปล. นิยายเรื่องนี้เต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลนะครับ หากชอบก็อ่านถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่าน

หลังจากที่พวกอายูมิรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เริ่มออกเดินทางด้วยความรวจเร็ว จนเวลาเริ่มเย็นพวกอายูมิก็ออกจากป่าที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ ทุงหญ้าที่แสนสวยงามสำหรับผู้เล่นใหม่ปรากฏตรงหน้าของอายูมิกับไบรท์ ทำให้พวกเขาถอนหายใจออกมา
พวกเขาตัดสินใจนั่งพักเหนื่อย “หลังจากนี้พวกเราจะไปเก็บทักษะทั้งหมดของเมืองเริ่มต้น” ไบรท์เปิดดูหน้าต่างพลางมองหญิงสาวที่กำลังรับประทานอาหารเย็นอย่างหิวโหย
“ทักษะของเมืองเริ่มต้นงั้นหรอ มันก็น่าสนใจดีนะ แต่ว่าของแบบนั้นมันจะดีจริงๆ หรอ” อายูมิหยุดกินพลางมองในหน้าต่างระบบของไบรท์
“ไม่รู้ดิ แต่ว่ามันก็น่าสนใจที่จะลองไม่ใช่หรอ ยังไงเราก็อุส่าเข้ามาเล่นเกมนี้นี่นา”
“นายลืมไปแล้วหรือปล่าวว่าถ้าเรายิ้งเก็บทักษะมากเท่าไรค่าประสบการณ์กับเลเวลก็จะอับขึ้นยากไปด้วยไม่ใช่หรอ แล้วอีกอย่างนายจะไปหามอนสเตอร์มาเลี้ยงไม่ใช่หรอ นายต้องหารค่าประสบการณ์กับพวกมอนสเตอร์ด้วยนะ”
ไบรท์พยักหน้าเป็นเชิงรับทราบ “นั่นไม่ใช่ปัญหา เธอเคยคิดไหมว่าทำไมผู้เล่ืนส่วนใหญ่ทำไมถึงเก็บเลเวลได้ช้า”
“ทำไมล่ะ”
ไบรท์ยิ้มพลางหยิบเนื้อที่อยู่ในมือของอายูมิมารับประทาน ก่อนที่จะพูดช้า ๆ “ก็เพราะว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ได้ใช่แผนเหมือนฉันยังไงล่ะ”
“มันก็จริงที่แผนของนายมันน่าสนใจ แถมยังมีโอกาศเป็นไปได้มาก ไม่แน่พวกเราอาจจะเลเวลยี่สิบห้ากันได้ในเวลาไม่นาน”
ไบรท์ยิ้มขึ้น ก่อนที่จะจ้องตากับอายูมิ “เธอคิดผิดแล้วละนะอายูมิ แผนการที่ฉันเคยบอกเธอน่ะมันไม่ใช่มีโอกาศเป็นไปได้ แต่ว่าโอกาศของแผนนี้มันเป็นไปได้แน่นอน ถ้าคิดให้ดีแผนนี้มันเป็นไปได้ถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นเลยล่ะ”
อายูมิมองท่าทางที่เปี่ยมความมั่นใจของเด็กหนุ่มตรงหน้า เธอค่อย ๆ ยิ้มออกมา “ถ้ายังงั้นฉันก็จะเชื่อนาย แต่ว่าถ้าแผนการนี้มันไม่หน้าสนุกละก็ ฉันจะฆ่านายให้เหลือเลเวลสูญอีกครั้งโอเครไหม”
ไบรท์หัวเราะกับท่าทางจริงจังของอายูมิ หากถามว่าทำไมพวกเขาและเธอถึงสามารถอยู่ด้วยกันได้มันก็คงเป็นเพราะวิธีการเล่นเกมการใช้ชีวิตในเกมของพวกเขามันช่างเหมือนกัน
“ได้สิแต่ว่าถ้าฉันทำให้เธอสนุกสุดเหวียงได้เธอจะให้อะไรฉัน”
อายูมิหยุดคิดเพียงคู่หนึ่งก่อนที่จะพูด “เอาให้นายทำได้แล้วฉันค่อยคิดก็แล้วกัน”
“ได้” ไบรท์พูดพลางลุกและเตรียมตัวเดินออกเดินทางต่อ
เพียงไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงเมืองเริ่มต้น ผู้คนที่เดินจับจ่ายใช้สอยซื้อของ บ้างก็ซื้อของกิน บ้างก็ซื้ออาวุธหรือน้ำยาฟื้นพลัง ทว่าเมื่อทุกคนเห็นพวกเขาก็กับหยุดพูดคุยกันอย่างกระทันหัน
“แหมพวกเรานี่ดังใหญ่แล้วนะ” อายูมิพูดพลางมองหาโรงแรมที่จะใช้ออกจากเกม
“ดังแบบนี้ฉันไม่ค่อยชอบเลยนะ แต่ว่ามันก็เหมือนวีรบุรุษเลยนะ”
ไบรท์พูดพลางมองหน้าต่างระบบที่มีรูปวาดของเขาพร้อมกับใบประกาศจับ
“ค่าหัวของฉันนี่มันถูกมากเลยนะ แค่หนึ่งร้อยเหรียญเอง” ไบรท์พูดอย่างไม่พอใจ ก็แหมเขาคิดว่าค่าหัวของตนเองควรจะมีประมาณหนึ่งล้านไม่ใช่หรอไง
“นี่มันคนที่จักการคนในกิวพยักษ์ขาวนี่ว่า” เสียงของผู้เล่นคนหนึ่งพูดขึ้น
“แจ้งหัวหน้ากิวพยักษ์ขาวดีไหม”
“อย่าเลยน่าสงสารออกผู้เล่นที่ถูกิวพยักษ์ขาวตามสังหารนะต้องออกจากเกมไปเลยนะ” เสียงผู้หญิงอีกคนดังขึ้น
สิ้นเสียงไบรท์ก็กดหน้าต่างระบบ เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างประหลาด อายูมิมองท่าทางของไบรท์พลางยิ้มขึ้น “ถ้านายจะทำแบบนี้ฉันขอไปยืนดูความสนุกอยู่ข้าง ๆ นะ”
“ได้เลย” ไบรท์พูดจบก่อนที่จะตะโกนขึ้น
“ทุกคนครับตอนนี้ผมได้ส่งคำท้าสู้ไปยังกิวพยักษ์ขาว การต่อสู้ครั้งนี้จะต่อสู้กันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ถ้าใครสนใจสนใจพนันข้างผมก็ลงเงินได้เลย แต่ว่าหากสนใจพนันข้างกิวพยักษ์ขาวก็จัดการได้ครับ ตอนนี้กิวพยักษ์ขาวได้รับคำท้าเรียบร้อยแล้วแล้วกำลังส่งคนมาทางนี้”
ท่ามกลางสายตาอันตกตลึงของผู้เล่นโดยรอบ ไบรท์ก็ยกยิ้มขึ้นในใจ หากเป็นคนปรกติคงต้องรีบหาวิธีออกจากเกม แต่ว่าหากเป็นเขามันก็อีกเรื่อง หากถามว่าทำไมไบรท์จึงตัดสินใจทำแบบนี้มันก็เกิดจากที่เขารู้ว่า การต่อสู้ในโลกจริงสามารถใช้ได้ในโลกเกม แล้วทำไมเขาจะปล่อยโอกาศนี้ให้หลุดลอยไป แถมอีกอย่างหากสังหารผู้เล่นด้วยกัน มันจะทำให้เขาได้ค่าประสบการมากกว่าการฆ่ามอนสเตอร์
“ฉันไม่สนใจหรอกว่าพวกแกจะเป็นกิวอันดับเท่าไรในเมืองนี้ แต่ว่าหากเป็นการดวนตัวต่อตัวฉันไม่มีทางแพ้แน่นอน”